วันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 ที่วัดพระธาตุจังเกา ตำบลโนนปูน อำเภอไพรบึง จังหวัดศรีสะเกษ ได้จัดพิธีไหว้พระธาตุจังเกาขึ้น โดยมีนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส นำหัวหน้าส่วนราชการและชาวบ้านร่วมพิธีอันศักดิ์สิทธิ์นี้
พิธีไหว้พระธาตุจังเกาถือเป็นประเพณีอันทรงคุณค่าที่ชาวบ้านในพื้นที่ได้สืบสานต่อกันมาอย่างยาวนาน เพื่ออนุรักษ์โบราณสถานเก่าแก่ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมศิลปากร และเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้าน
นายฉลาด ชิดชม นายอำเภอไพรบึง เปิดเผยว่า พระธาตุจังเกาเป็นพระธาตุเก่าแก่ที่ก่อสร้างด้วยอิฐทั้งองค์ในราวพุทธศตวรรษที่ 17 หรือประมาณ 800-900 ปีมาแล้ว ตั้งอยู่ในศูนย์กลางของ 4 อำเภอ ได้แก่ วังหิน พยุห์ ไพรบึง และขุขันธ์ ในอดีตพระธาตุแห่งนี้มีสภาพสวยงามคล้ายพระธาตุพนม มียอดพระธาตุกลมและมีฉัตรสำริดหลายชั้น พร้อมกระดิ่งโลหะที่ส่งเสียงกังวานไพเราะเมื่อมีลมพัด ยิ่งกว่านั้นในทุกวันพระจะมีแสงลอยออกจากยอดพระธาตุ จึงเป็นที่เลื่องลือและเคารพบูชาของชาวบ้าน
อย่างไรก็ดี พระธาตุองค์นี้ได้ถูกทำลายในช่วงเวลาใกล้เคียงกับที่พระธาตุพนมได้ล้มลง เมื่อมีพวกกุลาเอาปืนมายิงกระดิ่งฉัตรบนยอดพระธาตุ จนกระทั่งพระธาตุพังทลายลง ทำให้ชาวบ้านรู้สึกเสียดายและพยายามรวบรวมชิ้นส่วนที่สำคัญไว้ ซึ่งสันนิษฐานว่าพระธาตุจังเกาอาจสร้างขึ้นเพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุหรืออัฐิของผู้ปกครองในสมัยโบราณ
หลังพิธีไหว้สักการะพระธาตุจังเกาแล้ว ชาวบ้านยังได้กราบไหว้พระพุทธรูปเพื่อขอฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาลและปราศจากพายุร้าย พร้อมทั้งขอโชคลาภโดยการจุดธูปเลข ซึ่งปรากฏว่ามีข่าวลือว่าธูปมงคลแห่งพระธาตุจังเกาได้ให้โชคลาภแก่ชาวบ้านถูกรางวัลมาแล้ว 3 งวดติดกัน และ ธูปมงคลงวดนี้ได้ตัวเลขเด็ด 658 หรือ 058 แล้วแต่จะมองไปทางไหน สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อและศรัทธาที่ชาวบ้านมีต่อพระธาตุองค์นี้
พิธีไหว้พระธาตุจังเกาจึงเป็นประเพณีอันงดงามที่สะท้อนวิถีชีวิต ความเชื่อ และการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมของจังหวัดศรีสะเกษอย่างแท้จริง